Travel & Tours
Travel
ท่องเที่ยว
----
Bhutan follows a policy of responsible tourism --- they have carefully managed and controlled the growth of tourist industry, so that it does not adversely impact on either their distinct and deeply spiritual identity or cherished culture or damage their pristine and well-preserved environment. Hence, the total number of tourists in each year are not so high. Foreign visitors will travel to Bhutan by plane, using Royal Bhutan Airlines, namely Druk Air. The main airport is in Paro (65 km from capital, Thimphu). When visitors reach to Bhutan, there is no railway network in Bhutan, the visitors can travel this exotic land by road.
ภูฏานได้รับผิดชอบปฏิบัติตามนโยบายการท่องเที่ยว พวกเขามีการจัดการและควบคุมการเติบโต ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ส่งผลเสียต่อเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมอันโดดเด่นที่พวกเขาหวงแหน ดังนั้นจำนวนของนักท่องเที่ยวในแต่ละปีจึงไม่ค่อยมากนัก โดยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะเดินทางมาภูฏาน จะต้องเดินทางโดยสายการบิน Royal Bhutan นั่นก็คือ Druk Air สนามบินหลักอยู่ในเมือง Paro (65 km จากเมืองหลวง Thimphu) เมื่อผู้มาเยือนที่มาภูฏานแล้ว ที่นั่นไม่มีทางรถไฟ ท่านจะสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ ทางถนนเท่านั้น
Tour & Excursions
----
Untouched by modernization-A Shangri-La. Situated in the great Himalayan range, it is bordered by Tibet in the north and India to its south. As a purely Buddhist country, it has a rich & unique culture, tradition & way of life which still remains pristine.
ท่านจะไม่ได้สัมผัสกับความทันสมัย Shangri-La ตั้งอยู่ในเทือกเขาหิมาลัย ล้อมรอบด้วยทิเบตทางตอนเหนือและอินเดียทางตอนใต้ ในฐานะที่เป็นประเทศที่นับถือศาสนาพุทธอย่างแท้จริง มันจึงมีวัฒนธรรมประเพณีที่อุดมสมบูรณ์ และวิถีชีวิตที่ไม่เหมือนใคร ยังคงไว้ซึ่งความเก่าแก่
Tourism in Bhutan
การท่องเที่ยวในภูฏาน
----
There’s a place on earth that even the most seasoned travelers consider a privilege to visit. And, although it is voted one of the top travel destinations, very few make it. Bhutan’s consistent tourism policy of high value, low impact has helped the kingdom ensure its rich living culture. The kingdom represents a mystical destination left for those seeking a journey back into time. Visitors walk into rich and vibrant culture still living in the dance and songs, festivals and legends the art and architecture, all in the pristine natural setting of majestic mountains and lush, pristine valleys. ‘’Bhutan has remained an exotic and intriguing destination for the most travelers with level of mystery that has provided a cachet of curiosity that is very appealing’’. I think what most westerners want from their time in Bhutan is the aura of traditionalism and authenticity that most modern countries have lost
นี่คือสถานที่ในโลกที่แม้แต่นักเดินทางที่มากประสบการณ์ ยังยกให้เป็นหนึ่งในที่หมายปลายทางแห่งการท่องเที่ยวชั้นนำ นโยบายการท่องเที่ยวที่มีมูลค่าสูงและผลกระทบต่ำของภูฏาน ช่วยให้ราชอาณาจักรมั่นใจว่าจะคงวัฒนธรรมการดำรงชีวิตที่สมบูรณ์ได้ ราชอาณาจักรซึ่งเป็นตัวแทนดินแดนแห่งความลึกลับที่ยังหลงเหลืออยู่สำหรับนักท่องเทียวที่ชอบการเดินทางไปยังสถานที่ที่เสมือนย้อนเวลากลับไป ผู้มาเยือนได้ก้าวเข้าสู่วัฒนธรรมที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา และยังคงมีการเต้นรำทำเพลงในเทศกาล และตำนานศิลปะและสถาปัตยกรรม ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นตามธรรมชาติเขียวชอุ่มที่เก่าแก่ของหุบเขาคู่บ้านคู่เมือง ภูฏานยังเป็นจุดหมายปลายทางที่แปลกใหม่ และน่าสนใจสำหรับนักเดินทาง ที่รักในความลึกลับ ที่ทำให้เกิดความสนใจ อยากจะรู้อยากจะเห็น “ฉันคิดว่า สิ่งที่ชาวตะวันตกส่วนใหญ่ต้องการจากกาลเวลาของเขาในภุฏานก็คือ กลิ่นอายของความดั้งเดิมขนานแท้ ที่ประเทศสมัยใหม่ส่วนใหญ่นั้นได้สูญเสียไป”
A Sound Policy
นโยบาย
----
Today, Bhutan is also seen as a fine example of sustainable eco-tourism. Inspired by its unique development philosophy- Gross National Happiness- the national policy of high value, low volume tourism asks every visitor to be sensitive to a society that is trying to reverse the best of its past in a rapidly changing world. The country has 20 virgin peaks that are more than 7,000 meters high; mountaineering was closed in the late 1970’s when the nomadic herders living on the mountain slopes protested in parliament that their sacred mountains were being exploited. This is just one example of Bhutan’s courageous policy that the happiness is more important than material gain. It has 72 percent of its land under forest with more than 26 percent as protected parks and jealously guards its religious and cultural heritage.
วันนี้ ภูฏาน ถูกมองว่าเป็นตัวอย่างที่ดีของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศอย่างยั่งยืน ด้วยแรงบันดาลใจจากปรัชญาการพัฒนาที่เป็นเอกลักษณ์ ความสุขมวลรวมของคนในชาติ เป็นนโยบายของประเทศ ที่มีมูลค่าสูง แต่การท่องเที่ยวในปริมาณนั้น ทำให้ผู้มาเยือนทุกคนมีความรู้สึกถึงสังคมสังคมหนึ่งที่พยายามจะย้อนไปเป็นส่วนที่ดีที่สุด ในขณะที่โลกนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ประเทศนี้มียอดเขาที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ถึง 20 อันดับ ซึ่งสูงกว่า 7,000 เมตร แต่การปีนเขาได้ถูกปิดลงในช่วงปลายปี1970 เมื่อกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์ ที่อาศัยอยู่บนเนินเขา เข้าประท้วงในรัฐสภาว่า ภูเขาศักดิ์สิทธ์ของพวกเขาถูกแสวงหาผลประโยชน์ นี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่างหนึ่งของนโยบายที่กล้าหาญของภูฏาน ที่เห็นความสุข มีความสำคัญมากกว่าการได้รับวัตถุ ในภูฏาน มีที่ดินถึง 72% ที่เป็นผืนดินภายใต้ผืนป่า และ26% เป็นสวนสาธารณะที่ได้รับการการคุ้มครองให้เป็นมรดกทางศาสนาละวัฒนธรรมอย่างหวงแหน
Beginnings of Tourism.
จุดเริ่มต้นของการท่องเที่ยว
----
Bhutan opened up to tourism in 1974, after it came out of centuries of isolation. The government adopted a cautious tourism policy from the beginning to avoid the negative impacts that mass tourism could have on a small country. This exclusive policy represented eco-tourism at its best even before the concept was known. Today, tourism is one of the largest generators of foreign exchange for the country’s small economy. As infrastructure is increasing, the tourism authorities is arriving more as expected.
ภูฏานเปิดรับการท่องเที่ยวในปี พ.ศ. 2517 หลังจากแยกตัวออกมาหลายศตวรรษ รัฐบาลใช้นโยบายการท่องเที่ยวอย่างระมัดระวังตั้งแต่ต้น เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านลบที่มาจากการท่องเที่ยว ต่อประเทศเล็กๆ นโยบายพิเศษนี้แสดงถึงการเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ดีที่สุด มาก่อนที่แนวคิดนี้จะเป็นที่รู้จัก มาวันนี้ การท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในผู้สร้างรายได้ขนาดใหญ่ให้กับประเทศสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก